03 กันยายน 2551

ระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี หรือหลักธรรมาภิบาล


หลักธรรมาภิบาล หมายถึง แนวทางในการจัดระเบียบเพื่อให้สังคมของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ เอกชนและภาคประชาชน สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และตั้งอยู่ใน ความถูกต้องเป็นธรรม ตามหลักพื้นฐานการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามแผนภาพ ดังนี้1. หลักนิติธรรม (The Rule of Law) หลักนิติธรรม หมายถึง การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ โดยถือว่าเป็นการปกครองภายใต้กฎหมายมิใช่ตามอำเภอใจ หรืออำนาจของ ตัวบุคคล จะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม และความยุติธรรม รวมทั้งมีความรัดกุมและ รวดเร็วด้วย2. หลักคุณธรรม (Morality) หลักคุณธรรม หมายถึง การยึดมั่นในความถูกต้อง ดีงาม การส่งเสริม ให้บุคลากรพัฒนาตนเอง ไปพร้อมกัน เพื่อให้บุคลากรมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบ วินัย ประกอบอาชีพสุจริต เป็นนิสัย ประจำชาติ3. หลักความโปร่งใส (Accountability) หลักความโปร่งใส หมายถึง ความโปร่งใส พอเทียบได้ว่ามีความหมาย ตรงข้าม หรือเกือบตรงข้าม กับการทุจริต คอร์รัปชั่น โดยที่เรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น ให้มี ความหมายในเชิงลบ และความน่าสะพรึงกลัวแฝงอยู่ ความโปร่งใสเป็นคำศัพท์ที่ให้แง่มุมในเชิงบวก และให้ความสนใจในเชิงสงบสุข ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้สะดวกและเข้าใจง่าย และมีกระบวนการให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้องอย่างชัดเจนในการนี้ เพื่อเป็น สิริมงคลแก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานให้มีความโปร่งใส ขออัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งในองค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง ได้แก่ ผู้ที่มีความสุจริต และบริสุทธิ์ใจ แม้จะมีความรู้น้อยก็ย่อมทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมได้มากกว่าผู้ที่มีความรู้มาก แต่ไม่มีความสุจริต ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ4. หลักการมีส่วนร่วม (Participation) หลักการมีส่วนร่วม หมายถึง การให้โอกาสให้บุคลากรหรือผู้มี ส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมทางการ บริหารจัดการเกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เช่น เป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหรือ คณะทำงานโดยให้ข้อมูล ความคิดเห็น แนะนำ ปรึกษา ร่วมวางแผนและร่วมปฏิบัติ5. หลักความรับผิดชอบ (Responsibility ) หลักความรับผิดชอบ หมายถึง การตระหนักในสิทธิและหน้าที่ ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาการบริหารจัดการ การกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา และเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมทั้งความกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากกระทำของตนเอง6. หลักความคุ้มค่า (Cost – effectiveness or Economy) หลักความคุ้มค่า หมายถึง การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม โดยรณรงค์ให้บุคลากรมีความประหยัด ใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างคุ้มค่า และรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน

02 กันยายน 2551

สันติวิธี – เพื่อ – สันติประชาธิปไตย

โดยเหตุที่การเผชิญหน้ากันของรัฐบาล และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนี้ อาจนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด และลุกลามเป็นสงครามกลางเมืองได้ จึงขอฝาก “คติธรรม” มายังผู้เผชิญหน้ากันทุกฝ่ายดังต่อไปนี้
(1) ขอให้รัฐบาลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคนไทยทั้งปวง จงทำใจให้กว้างโดยการตระหนักรู้ว่า การชุมนุมกันทางการเมืองก็ดี ความขัดแย้งอันเนื่องมาจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ดี ถือว่า นี่เป็นปรากฏการณ์อันเป็นธรรมดาของบ้านเมืองที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
(2) ขอให้รัฐบาลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นใหญ่ เป็นสำคัญ อย่าทำการใดก็ตาม เพียงเพื่อสนองผลประโยชน์ของตนเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงว่าประเทศชาติประชาชนจะเสียหายใหญ่หลวงเพียงไร
(3) ขอให้ทุกท่าน ทุกคน ทุกฝ่ายยึดมั่นในหลักธรรมสำคัญ อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาโดยไม่เสียเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันดังต่อไปนี้
3.1 ขอให้ยึดมั่นใน “ขันติธรรม” กล่าวคือ การอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด อย่าลุแก่โทสะ คือ ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา หรือนำไปสู่การเผชิญหน้ากันโดยขาดความยั้งคิด
3.2 ขอให้ยึดมั่นใน “สันติธรรม” กล่าวคือ ใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาทุกขั้นตอน โดยขอให้คิดอย่างสันติ (เช่น ไม่วางยุทธศาสตร์ให้ทหาร ตำรวจ ใช้อาวุธสงครามบุกเข้าทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์) พูดอย่างสันติ (เช่น ไม่กระตุ้นให้เกิดความเกลียดชัง หรือยั่วยุให้เกิดการใช้ความรุนแรง) และทำอย่างสันติ (เช่น ใช้การเจรจาเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหา)
3.3 ขอให้ยึดมั่นใน “เมตตาธรรม” กล่าวคือ อย่าเผชิญหน้ากันโดยการตั้งธงแห่งอคติไว้ล่วงหน้าว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตนเป็น “ปรปักษ์” ที่จะต้องถูกกำจัด ถูกลงฑัณฑ์ให้หนักหนาสาหัส แต่ขอให้เผชิญหน้ากับคนที่อยู่ตรงข้ามกับตนในฐานะที่เขาก็เป็น “คนไทยเหมือนกันกับเรา” เขาแค่เห็นหรือปฏิบัติไม่ตรงกับเรา ไม่ได้หมายความว่าเขามี “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์น้อยกว่าเรา”
3.4 ขอให้ยึดมั่นใน “นิติธรรม” กล่าวคือ เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ประเทศชาติประกอบด้วยคนที่ต่างคนต่างความคิด ต่างความเห็น ต่างความต้องการ หากทุกคน ทุกฝ่าย ต่างยึดเอา “ความต้องการ” ของตนเป็นที่ตั้ง ก็ไม่มีทางที่ประเทศชาติจะมีสันติสุขได้เลย ดังนั้น เราทุกคน ทุกฝ่าย จึงควรร่วมกันยกเอา “กฎหมาย” ขึ้นเป็นใหญ่ เป็นสำคัญ เป็นบรรทัดฐาน ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ คนทุกคนที่ไม่ยอมให้แก่ใคร ในท้ายที่สุดก็ควรจะยอมให้แก่ “กฎหมาย” เมื่อมาอยู่เบื้องหน้ากฎหมายแล้วขอให้เราเคารพกฎหมาย เพราะหากไม่เคารพกฎหมายเลย บ้านเมืองก็จะเข้าสู่สภาพอนารยะ ไม่มีขื่อไม่มีแป ไม่มีหลักประกันในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และจะก่อให้เกิดสภาพล้าหลังในทุกๆ ทางอย่างน่าเสียใจเป็นที่สุด
ขอให้เราคนไทยทุกภาคส่วน ร่วมกันตั้งกัลยาณจิต ภาวนาให้เราสามารถก้าวข้ามวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ร่วมกันอย่างสันติในเร็ววัน.



01 กันยายน 2551

ไวรัสคอมพิวเตอร์อาละวาดกลางอวกาศ


องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา ยืนยันว่า เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ที่นำขึ้นไปใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเดือน ก.ค. เกิดติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า “Gammima.AG“ สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่กลางอวกาศ แต่ไวรัสคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถเล่นงานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อยู่ดี ไวรัสคอมพิวเตอร์ “Gammima.AG“ ถูกตรวจพบเป็นครั้งแรกบนโลก เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว มักซ่อนตัวเองอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อรอจังหวะ ขโมยชื่อล็อกอินในเกมคอมพิวเตอร์ยอดนิยม ขณะที่นาซ่า ย้ำว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบไวรัสอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันกลางอวกาศ แต่ครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไวรัสคอมพิวเตอร์จะก่อปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติเกิดติดไวรัสได้อย่างไร เรื่องดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากเว็บไซต์ สเปซเรฟ ซึ่งให้บริการข่าวสารด้านอวกาศ นาซ่าได้รับรองกับสเปซเรฟ ว่า ระบบสั่งการหรือควบคุมสถานีอวกาศนานาชาติ ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดไวรัสอย่างแน่นอน ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ติดไวรัส เป็นเครื่องที่ใช้เดินโปรแกรมเกี่ยวกับอาหาร และให้นักบินอวกาศใช้เครื่องนี้ ส่งอีเมลกลับไปหาผู้คนบนโลกได้เป็นระยะ แต่คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ไม่ได้มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ต้านไวรัสเอาไว้ จึงป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ไม่ได้ สถานีอวกาศนานาชาติจะไม่มีเครือข่ายเชื่อมโยงโดยตรงกับแหล่งข้อมูลบนโลก ข้อมูลทุกประเภทที่จะถูกส่งจากโลกไปยังยานอวกาศจะต้องได้รับการสแกนเสียก่อน ดังนั้น จึงคาดว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติ อาจติดไวรัสจาก ยูเอสบีไดรฟ์ ที่นักบินอวกาศนำขึ้นไปด้วย ทางนาซ่า มีแผนจะวางกฎระเบียบให้เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต. -สำนักข่าวไทย

... เพื่อนสนิท... ก็คือ


... เพื่อนสนิท... ก็คือ เพื่อนธรรมดาๆ คนนึง ที่ดันสนิทกันมากกว่าเพื่อนธรรมดาๆทั่วๆไป ซึ่งมันก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่าง ที่คล้ายๆกับเรามากกว่าเพื่อนคนอื่น ... ถึงจะมาสนิทกันได้... บางที อาจไม่ใช่นิสัย ... บางที อาจไม่ใช่หน้าตา ... บางที อาจไม่ใช่ฐานะ ... บางที อาจไม่ใช่ระดับความรู้ ... แต่มันอาจจะมีอะไรบางอย่าง ที่ต้องเป็น มั น ค น นี้ เ ท่ า นั้ น ที่ มี ... บางครั้ง ... เราก็ไม่ไป ที่ที่เราอยากไป ... เพียงเพราะว่า มันไม่ไปด้วย ... บางครั้ง ... นั่งเงียบอยู่ได้ตั้งนาน แต่แค่เห็นหน้ามัน ... น้ำตาที่กลั้นไว้แทบตาย กลับทะลักออกมาได้จนหมด ... บางครั้ง ... ถ้ามีเสียงหัวเราะของมันด้วย ... เราจะหัวเราะได้ดังกว่านี้ ... บางครั้ง ... ร้อยคำปลอบใจของใครก็ไม่รู้ ... ยังอุ่นใจไม่เท่ามือมันที่แค่ตบเบาๆที่หัวไหล่บอกเป็นนัยๆว่า กรูอยู่ตรงนี้ ชอบคำๆนึงที่บอกว่า … เร า ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น แ ค่ เ พื่ อ น . .แ ต่ เ ร า เ ป็ น ตั้ ง เ พื่ อ น ต่ า ง ห า ก . . ... เพราะเพื่อนมีความสำคัญมากๆ ... มากจนบางคนแยกไม่ออก เอาไปเปรียบเทียบกะแฟนว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ทั้งๆที่มันคนละเรื่องกันเลย แต่เมื่อเวลาที่เราอยู่ในห้วงของความรัก ... เพื่อนจะกลายเป็นส่วนเกินของโลกส่วนตัวเราทันที ... ไอ้เพื่อนสนิทเรา มันคงจะชินแล้ว ที่เวลาเรามีรักทีไร เราก็จะห่างๆมันไปทุกที ... เวลาที่จะกลับมานึกถึงมันได้อีกที ก็ตอนอกหักนู่นแหละก็เคยคิดเหมือนกันนะถ้าเราเป็นมัน จะรู้สึกยังไงคงจะประมาณว่า... พอมีแฟนก็ลืมเพื่อน" ... นี่ กะกรูไม่เคยช่วยห่ าไรเลย ทีกะแฟนแมร่งแทบถวายหัว" ... " ต้องเลิกกะแฟนก่อนถึงจะจำเบอร์โทรกรูได้ใช่ไหม สราดดด" ... คิดๆดูแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเพราะเวลาที่กำลังมีความสุขในห้วงของความรักก็แทบไม่ได้จะไปเที่ยวไหนกับมันเลย นานๆถึงจะได้คุยกันที แต่พอผิดหวัง พอเจ็บตัวขึ้นมา นาทีนั้นอยากกดโทรศัพท์ไปหามันก่อน อยากให้มันรับโทรศัพท์ก่อน ซึ่งบางทีมันนอนไปแล้วเราก็จะไล่มันกลับไปนอน ไม่ต้องตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราวใดๆทั้งนั้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่มันรับโทรศัพท์ ก็พอแล้ว แบบนี้ละมั้งที่เค้าว่า ... ' เพื่อน คือคนที่สามารถนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดอะไรสักคำ ' แต่ลุกจากกันไปได้เหมือนคุยกันไปนับล้านคำ ' ... ' เพื่อน '... ' คือคนที่เมื่อเราสุข เราไม่เห็นมันอยู่ในสายตา 'แ ต่ เ ป็ น ค น ไ ม่ มี วั น ป ล่ อ ย ใ ห้ เ ร า ล้ ม ลง ไ ม่ ว่ า เ ร า จ ะ ไ ป เ จ็ บ ม าจ า ก ไ ห น

04 กรกฎาคม 2551

กรณีศึกษา Sarah Moris

กรณีที่1 เป็นคำถามเพื่อจัดทำธุรกิจ ดังนั้น Sarah Moris จึงต้องจัดทำโปรแกรมดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องมีโปรแกรมสำเร็จรูป ระบบฐานข้อมูลที่นิยมและทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน วิเคราะห์ความต้องการทางการตลาด มีระบบสารสนเทศที่เพียงพอ มีบุคลากรมีฐานความรู้ที่สามารถสร้างสรรค์โปรแกรมใหม่ๆ จัดเก็บทุกรายละเอียดของข้อมูล เปรียบเทียบแปรับปรุงโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอและจัดหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจให้มากที่สุด
กรณีที่2 ก่อนการดำเนินโครงการต้องมีการประมวลผลเพื่อให้เป็นผลสำเร็จอย่างแท้จริง คือ หาข้อมุลที่เป็นข้อเท็จจริงจากลูกค้าโดยการโฆษณาทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ ส่งE-mail และบนInternetเมื่อได้ผลย้อนกลับต้องกลั่นกรองและประมวลผลให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมากที่สุด
กรณีที่3 ในการพิจารณาไตร่ตรองเพื่อการตัดสินใจ จำเป็นต้องนำโครงสร้างต่างๆ ที่ได้จากการสำรวจข้อมูล ซึ่งโครงสร้างจะต้องสอดคล้อง เกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กันอย่างมาก ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทางเศรฐกิจ การเมือง ทัศนคติ การตอบสนองความต้องการและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นพร้อมกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในขณะนั้นๆ ด้วย
นส.จิตรลดา เชื้อพระซอง 501-20-0193
นส.รูเซียนา ยะปา 501-20-0208
นส.รีนา ดาโอ๊ะ 501-20-0209